สาววัย 21 ช็อปปิ้งสนุกสนานทั้งปี เมื่อธนาคารโอนเงินเกินเข้าบัญชีให้ 100 ล้านบาท
คริสติน เจียซิน ลี สาวนักศึกษาวัย 21 ปี สาขาวิศวกรรมเคมี กลายมาเป็นเศรษฐีโดยไม่ทันตั้งตัวหลังจากที่ธนาคารได้โอนเงินเข้าผิดบัญชี มาเข้าที่บัญชีของเธอแทนเป็นมูลค่า 162 ล้านบาท (4.6 ล้านดอลลาร์) โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของเงินจำนวนมากในบัญชีเลยแม้แต่น้อย ไม่ติดต่อธนาคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตลอดระยะเวลา ที่เงินมูลค่ามหาศาลนี้อยู่ภายในบัญชีของเธอ เธอก็ถอนเงินมาซื้อของอย่างต่อเนื่องแบบหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม ของใช้เครื่องประดับราคาแพง
ยกตัวอย่างเช่น หมอนชาเนล มูลค่า 47,000 บาท กำไลข้อมือ Cartier Love มูลค่า 318,000 บาท กระเป๋าหนังจระเข้ Birkin Himalayan มูลค่า 5.59 ล้านบาท และสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกบานตะไท รวมมูลค่าที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณ 84 ล้านบาท (2.4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
รายการสิ่งของที่เธอซื้อทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วจะหมดไปกับการซื้อกระเป๋ามูลค่าสูงลิบลิ่ว
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่อาจลอยนวลทำเป็นไม่รู้เรื่องได้อีกต่อไป หลังจากที่พยายามจะหลบหนีบินกลับประเทศ เธอถูกจับคาสนามบินนานาชาติคิงส์ฟอร์ดสมิธ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยใช้หนังสือเดินทางฉุกเฉิน ถูกตั้งข้อหาได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการหลอกลวงและฉ้อฉลยักยอกก่ออาชญากรรมทางการเงิน
ทางด้านแฟนหนุ่ม Vincent King ได้กล่าวไว้ว่าพวกเขาไม่รู้เลยว่ามันเป็นความผิดพลาดของธนาคาร Westpac ที่จะโอนเงินเข้าผิดบัญชี แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าการนำเงินที่ไม่ใช่ของตัวเองไปใช้ ถึงแม้จะอยู่ในบัญชีของตัวเองก็ตาม เป็นอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งในกรณีนี้เป็นการใช้ผลประโยชน์จากความผิดพลาดของธนาคาร
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคาร Westpac เองก็พยายามที่จะติดต่อเธอเกี่ยวกับเรื่องจำนวนเงินมหาศาลนี้แล้ว แต่เธอไม่ติดต่อกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะทั้งทางโทรศัพท์หรืออีเมลล์
แม้จะโดนจับ แต่เจ้าตัวปฏิเสธความผิดในระหว่างสอบปากคำ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘มันไม่ได้เป็นการก่ออาชญกรรมเลยนะ, มันเป็นเงินที่พวกเราต่างเฝ้าฝันกันไม่ใช่เหรอ’ แต่สุดท้ายก็ได้รับการประกันตัว แต่ผูกด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง เช่นยกเลิกหนังสือเดินทางฉุกเฉินรวมไปถึงการรายงานตัวที่สถานีตำรวจสองครั้งต่อวัน
ภายหลังจากความผิดพลาดของธนาคารที่เกิดขึ้น คริสติน เจียซิน ลี วัย 21 ปี นักศึกษาสาวชาวมาเลเซียที่เรียนอยู่ในกรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้นำเงินที่โอนมาผิดจำนวน 162 ล้านบาทนี้ (4.6 ล้านดอลลาร์) นำไปซื้อของใช้ที่มีราคาแพง มหาแพง อย่างต่อเนื่อง
ทางศาลก็ได้อุนมัติให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักของเธอ เพื่อทำการยึดสินค้าที่ซื้อมาทั้งหมดคืน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกระเป๋าแบรนด์ดังมูลค่าสูง และเครื่องประดับเพรชพลอยอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น…
กระเป๋ายี่ห้อ Hermes ใบละ 1,150 ดอลลาร์ (41,000 บาท)
กระเป๋าแต่ละใบยังคงถูกเก็บในกล่องสภาพสมบูรณ์เหมือนกับวันที่ถูกซื้อมา
ทั้งรุ่น Birkin และ Kelly หลากหลายใบ
เธอกล่าวว่านำเงินส่วนใหญ่ไปซื้อของจำพวก เสื้อผ้า, รองเท้า และกระเป๋าเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเข้าร้าน Christian Dior และร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังอื่นๆ
กระเป๋า Birken จากแบรนด์ Hermes ที่ถูกยึดมา
ทางด้านเจ้าหน้าที่สอบถามว่าตอนนี้เธอเหลือเงินเท่าไหร่ เธอบอกว่าเหลือแค่ 4,000 ดอลลาร์ (142,000 บาท) เท่านั้น ซึ่งเธอจะต้องชดใช้เงินคืนทั้งหมดและทางพ่อแม่ของเธอก็ทราบเรื่องแล้วด้วย
กระเป๋าส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นแบรนด์ Hermes
ภายในวันเดียวเธอสามารถซื้อของรวมมูลค่าได้สูงสุดถึง 220,000 ดอลลาร์ (7.8 ล้านบาท) ภายในร้าน Christian Dior ที่ซิดนีย์
แว่นตากันแดด Prada ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ซื้อเช่นกัน
สร้อยคอ Dior
สายคล้องกระเป๋า Hermes
อย่างไรก็ตามทางธนาคารสามารถตามเงินกลับคืนมาได้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น จากการโอนเงินออนไลน์ผ่าน PayPal เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.15 ล้านดอลลาร์ (41 ล้านบาท) แต่เงินที่เหลือนั้นยังคงไร้วี่แวว
เครื่องเพชรพลอย Chanel ที่ถูกซื้อมา
กระเป๋า Christian Dior
รองเท้าส้นสูง Christian Louboutin
กล้องเซลฟี่ Casio ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ถูกซื้อมาด้วย
รวมไปถึงเสื้อผ้า
.
เจ้าหน้าที่ทำการยึดคืนสินค้าที่ถูกซื้อมาทั้งหมด
ชีวิตดีเหลือเกิน กับเงินของคนอื่น
รายการของที่ซื้อ เท่าที่รวบรวมหลักฐานได้
คริสตินให้การกับศาลว่า เธอคิดว่าเป็นเงินที่พ่อแม่จากมาเลเซียโอนมาให้ จนนำไปสู่การกระหน่ำซื้อแบบไม่หยุดยั้งเช่นนี้ นั่นทำให้ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง และทำให้เธอกลับไปใช้ชีวิตในมาเลเซียได้เหมือนเดิม แต่ธนาคารก็จะ “ดำเนินการทุกมาตรการ” รวมไปถึงทำการฟ้องทางแพ่งเพื่อเรียกคืนค่าเสียหายให้ถึงที่สุดต่อไป